กินแล้วหยุดไม่ได้! รวมสุดยอดของกินเล่นญี่ปุ่นที่ต้องลอง
 
                ในประเทศญี่ปุ่นมีวัฒนธรรม “บันชะคุ (晩酌)” หรือการดื่มเหล้าพร้อมกับของกินเล่นเพื่อผ่อนคลายหลังเลิกงาน “โอะสึมะมิ (おつまみ)” หรือของกินเล่นจึงถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เบียร์หรือสาเกรสชาติดียิ่งขึ้น
แต่เสน่ห์ของ “โอะสึมะมิ” ไม่ได้อยู่ที่การกินคู่กับเหล้าเท่านั้น ของกินเหล่านี้ผลิตจากวัตถุดิบคุณภาพและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงเหมาะสำหรับเป็นของว่างสำหรับเด็กหรือผู้ที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ อีกทั้งยังเป็นของกินที่คนทุกเพศทุกวัยนิยม เพราะพลังงาน คาร์โบไฮเดรต และไขมันน้อยกว่าขนมทั่วไป แต่สามารถให้โปรตีนได้ด้วย
บทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับ “ของกินเล่นยอดนิยม” ที่หาซื้อได้ง่าย ๆ ตามร้านสะดวกซื้อและซูเปอร์มาร์เก็ตในญี่ปุ่น มาดูกันเลย!
【Natori】 ซีรีส์ “ต้องลองสักครั้งในชีวิต”

รู้หรือไม่ว่าซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อในญี่ปุ่นจะมี “โซนของกินเล่น (โอะสึมะมิ)” แยกออกมาจากโซนขนมทั่วไป? และสินค้าที่เราอยากให้คุณซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านที่สุดก็คือซีรีส์ “ต้องลองสักครั้งในชีวิต” จาก 【Natori】

ซีรีส์นี้เป็นของกินเล่นระดับพรีเมียมที่ใส่ใจทั้งวัตถุดิบและกระบวนการผลิต เพื่อดึงรสชาติความอร่อยของวัตถุดิบออกมาให้ได้มากที่สุด เปิดตัวครั้งแรกในปี 2006 และได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นสินค้าขายดีตลอดกาล

บรรจุภัณฑ์สีทองที่ดูหรูหราให้ความรู้สึกพิเศษ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับซื้อเป็นของฝาก!
เว็บไซต์ทางการอยู่ที่นี่( https://www.natori.co.jp/joy/gpseries.html )
คำแนะนำจากทีม Payke! สำหรับสายเนื้อ ต้องลองอันนี้!
ขอเริ่มซีรีส์นี้ด้วยไส้กรอกซาลามิสุดพิเศษ วัตถุดิบหลักที่ใช้คือเนื้อหมูส่วนหัวไหล่จากประเทศเดนมาร์ก ซึ่งเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อด้านการปศุสัตว์ โดยเฉพาะหมูที่มีระบบควบคุมคุณภาพในระดับโลก หมูที่เลี้ยงในสภาพแวดล้อมที่ไม่เครียดมีเนื้อนุ่ม ชุ่มฉ่ำ และมีรสอูมามิเข้มข้น
ในบรรดาวัตถุดิบเหล่านี้ Natori ได้คัดสรรเฉพาะส่วนที่เหมาะกับการทำซาลามิมากที่สุด รวมถึงใส่ใจในเรื่องเครื่องปรุงและกระบวนการบ่ม เพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด

บนบรรจุภัณฑ์จะมีสัญลักษณ์ “DANISH” ซึ่งเป็นตรารับรองคุณภาพเฉพาะสำหรับสินค้าที่ใช้เนื้อหมูจากเดนมาร์ก เป็นหลักฐานยืนยันถึงมาตรฐานความปลอดภัยและคุณภาพของวัตถุดิบ

บนบรรจุภัณฑ์ยังระบุไว้อย่างชัดเจนว่า “ใช้เนื้อหมูคุณภาพจากเดนมาร์ก”
※ข้อควรระวัง
 บทความนี้แนะนำซาลามิเป็นตัวอย่างของของฝาก อย่างไรก็ตาม ในหลายประเทศและภูมิภาครวมถึงไต้หวัน มีกฎหมายห้ามนำเข้าเนื้อสัตว์ โปรดตรวจสอบกฎระเบียบของประเทศปลายทางก่อนเลือกซื้อของฝากประเภทนี้ 
1. ซาลามิแบบบดหยาบ

ชื่อสินค้า: ซาลามิแบบบดหยาบ
ผลิตจากเนื้อหมูเดนมาร์กบดหยาบ ให้รสสัมผัสเด้ง นุ่ม ชุ่มฉ่ำ และรสชาติอูมามิแน่นเต็มคำ ปรุงรสด้วยเกลือหินเยอรมันเพื่อดึงความอร่อยของเนื้อออกมาอย่างเต็มที่ (ข้อมูลจากบริษัท)

ใน 1 ถุงจะมีแพ็คเล็ก 2 ชุด ชุดละ 4 ชิ้น เหมาะสำหรับกินทีละนิด เคี้ยวเพลิน ยิ่งเคี้ยวยิ่งอร่อย เหมาะสำหรับเป็นของกินเล่นระดับพรีเมียม
2. ซาลามิอร่อย

ชื่อสินค้า: ซาลามิอร่อย
เหมาะสำหรับช่วงเวลาพักผ่อนหลังมื้ออาหาร คู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ “ซาลามิอร่อย” เป็นของกินเล่นที่ให้รสหมูเข้มข้นจากเดนมาร์กและกลิ่นหอมของเครื่องเทศ ใช้เครื่องเทศถึง 13 ชนิด เช่น กระวานและลูกจันทน์เทศ หมักและรมควันอย่างพิถีพิถันจนได้รสชาติและกลิ่นที่กลมกล่อม (ข้อมูลจากบริษัท)

เครื่องดื่มที่เข้ากับซาลามิที่สุด

เครื่องดื่มที่เข้ากันได้ดีกับ “ซาลามิอร่อย” และ “ซาลามิแบบบดหยาบ” คือเบียร์และไฮบอลล์ ความฉ่ำและไขมันของซาลามิจะยิ่งโดดเด่นเมื่อทานคู่กับเบียร์เย็น ๆ หรือไฮบอลล์รสสดชื่น ความเข้มข้นของเนื้อและความซ่าของเครื่องดื่มจะผสมกันอย่างลงตัว ทำให้กินเพลินแบบหยุดไม่อยู่!
สายชีสต้องลอง!

ของกินเล่นที่ทำจากชีสถือเป็นของโปรดของใครหลายคน ความเข้มข้นและความนุ่มละมุนของชีสเข้ากันได้ดีกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เหมาะทั้งเป็นกับแกล้มของผู้ใหญ่และเป็นของว่างสำหรับเด็ก รสชาติกลมกล่อมที่คนทุกวัยชื่นชอบ เหมาะสำหรับซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้าน
3. ชีสรมควัน

ชื่อสินค้า: ชีสรมควัน
ชีสชิ้นพอดีคำ เนื้อสัมผัสนุ่มละมุนและกลิ่นรมควันหอมกรุ่น ผลิตจากการผสมชีสธรรมชาติ 5 ชนิด รวมถึงเพโคริโน โรมาโน แล้วนำไปรมควันด้วยไม้แอปเปิ้ลอย่างพิถีพิถัน (ข้อมูลจากบริษัท)

ชีสแบบรมควันเป็นของกินเล่นยอดนิยมในญี่ปุ่น เมื่อกัดเข้าไปจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นรมควันหอมละมุนและรสครีมมี่ เข้ากันได้ดีกับไวน์แดงหรือสาเก เหมาะสำหรับสายชีสหรือคนที่อยากลิ้มรสรสชาติแบบผู้ใหญ่
4. ชีสทาระ (Cheese Tara)

ชื่อสินค้า: ชีสทาระ
ชีสทาระที่ผสมชีสคองเต้จากฝรั่งเศส 12% ให้รสเข้มข้นและหอมคล้ายถั่ว เหมาะสำหรับผู้ที่อยากเพลิดเพลินกับช่วงเวลาสุดพิเศษ (ข้อมูลจากบริษัท)
ชีสทาระเป็นของกินเล่นแบบญี่ปุ่นที่ทำจากแผ่นปลาคอดและชีส ผลิตโดย Natori ตั้งแต่ปี 1982 และเป็นสินค้าขายดีมาอย่างยาวนาน
“ชีสทาระ” เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของบริษัท Natori (เลขที่ 1939079) ควรระวังสินค้าลอกเลียนแบบ

บรรจุในซองเล็ก 2 ซอง หนา เคี้ยวเพลิน ได้ทั้งรสเข้มข้นของชีสและความเบาของปลาคอด เหมาะทั้งเป็นของกินเล่นและของว่างสำหรับเด็ก
ตัวแทนของ “โอสึมามิ” ที่แท้จริง! ของกินเล่นสไตล์ญี่ปุ่นแท้

ผลิตจากปลาหมึกญี่ปุ่นคุณภาพดี โดยคงรสชาติดั้งเดิมของวัตถุดิบเอาไว้ มีทั้งแบบ “อาตาริเมะ (ปลาหมึกอบแห้ง)” และ “ซากิอิกะ (ปลาหมึกฝอย)” เป็นของกินเล่นยอดนิยมที่เคี้ยวเพลินและรสชาติยิ่งเข้มข้นเมื่อเคี้ยวนานขึ้น ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ และมักถูกเลือกเป็นของฝากสไตล์ญี่ปุ่นอีกด้วย
5. ปลาหมึกอบแห้ง (อาตาริเมะ)

ชื่อสินค้า: ปลาหมึกอบแห้ง
ปลาหมึกญี่ปุ่นอบทั้งหนังจนได้กลิ่นหอมและรสเข้มข้น เคี้ยวเพลินและยิ่งเคี้ยวยิ่งได้รสอูมามิของปลาหมึกแท้ (ข้อมูลจากบริษัท)

เป็นของกินเล่นญี่ปุ่นดั้งเดิมที่ให้ความเพลิดเพลินในการเคี้ยวอย่างแท้จริง คนญี่ปุ่นนิยมกินคู่กับมายองเนสและพริกชิจิมิ เพิ่มรสเผ็ดเล็กน้อย เหมาะสำหรับใครที่อยากสัมผัสประสบการณ์กินแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ
6. ปลาหมึกฝอย (ซากิอิกะ)

ชื่อสินค้า: ปลาหมึกฝอย
ปลาหมึกญี่ปุ่นอบทั้งหนังด้วยวิธีพิเศษเพื่อรักษารสอูมามิและกลิ่นหอมจากการย่าง (ข้อมูลจากบริษัท)

ด้วยความที่เป็นปลาหมึกทั้งหนัง รสชาติจะเข้มข้นและลุ่มลึก เคี้ยวเพลินและกลิ่นหอมยิ่งเด่นขึ้นเมื่อเคี้ยวนาน เหมาะสำหรับเป็นของกินเล่นง่าย ๆ หรือทานคู่กับเหล้าญี่ปุ่นและโชจู เป็นสแน็กญี่ปุ่นสุดคลาสสิกที่ไม่ควรพลาด
“ขนาดซองเล็ก พกง่าย กินสะดวก”

เหมาะสำหรับคนที่อยากลองหรืออยากกินเพียงเล็กน้อย มีให้เลือกทั้งหมด 4 ชนิด ได้แก่ “ซาลามิแบบบดหยาบ”, “ซาลามิอร่อย”, “ชีสรมควัน” และ “ชีสทาระ”

นอกจากจะเหมาะเป็นของกินเล่นระหว่างเดินทางแล้ว ยังเหมาะสำหรับซื้อเป็นของฝากอีกด้วย
เป็นอย่างไรบ้างคะ?
ซีรีส์ “ต้องลองสักครั้งในชีวิต” จาก Natori ที่เราแนะนำในวันนี้ เป็นของกินเล่นคุณภาพสูงที่พิถีพิถันทั้งวัตถุดิบและกรรมวิธีการผลิต เหมาะทั้งสำหรับช่วงเวลาพักผ่อนในทริปเที่ยวญี่ปุ่นหรือเป็นของกินเล่นยามดื่มหลังกลับบ้าน อีกทั้งยังเหมาะสำหรับคนที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์หรือเป็นของว่างสำหรับเด็กด้วย
หาซื้อได้ง่ายที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ดองกิโฮเตะ และร้าน 100 เยนทั่วญี่ปุ่น ลองซื้อกลับไปเป็น “ของกินเล่นพิเศษจากญี่ปุ่น” แล้วคุณจะได้พบกับของโปรดชิ้นใหม่แน่นอน!
