ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเจ้าหญิงในนิยาย ด้วยการประดับกลิ่นหอมสุดวิเศษรอบตัวคุณ

มีใครเคยลองเผาเทียนหอมกันบ้างไหมคะ?
เราคิดว่าในนอกจากในประเทศญี่ปุ่นแล้ว ในต่างประเทศก็น่าจะมีเทียนหอมกันใช่ไหมคะ
แต่เราคิดว่าเทียนหอมของญี่ปุ่นนั้น น่าจะมีกลิ่นหอมที่แตกต่างไปจากเทียนหอมของประเทศอื่น ๆนะคะ
โดยในครั้งนี้ เราจะมาแนะนำเทียนหอมของญี่ปุ่นกันนะคะ

เรามารู้สึกสดชื่นกับกลิ่นหอมเหล่านี้กันดีกว่าค่ะ ♪

ประวัติของเทียนหอม

ก่อนอื่น เราจะมาแนะนำประวัติของเทียนหอมแบบคร่าว ๆกันก่อนนะคะ
เทียนหอมได้เข้ามาในญี่ปุ่นช่วงปีค.ศ. 538 ซึ่งตรงกับเวลาที่ศาสนาพุทธได้เข้ามาในประเทศญี่ปุ่นค่ะ
แล้วในช่วงศตวรรษที่ 9 เหล่าขุนนางชนชั้นสูงก็ได้นำเทียนหอมมาใช้เพื่อให้ความหอม
และหลังจากศตวรรษที่ 17 เป็นต้นมา วิธีสร้างเทียนหอมก็ได้ถูกแพร่กระจายและกลายเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมญี่ปุ่นในที่สุด
ในสมัยก่อนนั้น เฉพาะผู้ที่มีฐานะทางการเงินสูง ๆเท่านั้น ถึงจะสามารถมีเทียนหอมไว้ครอบครองได้ ต่างจากยุคปัจจุบันที่เทียนหอมนั้นได้ถูกใช้ในคนทุกชนชั้นค่ะ

กลิ่นดอกไวโอเล็ต

ก่อนอื่นเราจะมาแนะนำกลิ่นดอกไวโอเล็ตกันก่อนค่ะ

กลิ่นดอกไวโอเล็ต 540 เยน (รวมภาษี)
ดอกไวโอเล็ตนั้นจะบานสะพรั่งในฤดูไม้ผลิ โดยคุณจะสามารถเห็นมันได้บ่อยสุดตามข้างถนนค่ะ
โดยเทียนหอมกลิ่นดอกไวโอเล็ตนั้นจะมีสีม่วงค่ะ
และภาชนะที่ใช้บรรจุเทียนหอมก็ดูดีมีสไตล์มากเลยล่ะค่ะ
ในปัจจุบัน ที่ตั้งเทียนหอมจะมีลวดลายและรูปแบบที่ดูทันสมัยจำนวนมาก ซึ่งจะต่างจากดีไซน์รุ่นเก่าดังในภาพด้านบนค่ะ
โดยสิ่งที่อยู่ทางขวานั้นคือที่ตั้งค่ะ

เมื่อลองตั้งดูจริง ๆแล้วก็จะเห็นเป็นดังภาพด้านบนค่ะ
วิธีที่ดีที่สุดก็คือนำเทียนหอมที่ประกอบแล้วไปตั้งไว้บนจานที่ไม่ติดไฟค่ะ แต่เนื่องจากเราไม่มีจานที่เหมาะสมจึงซื้อชุดขาตั้งแบบสมบูรณ์แยกต่างหากค่ะ

หากจะใช้เทียนหอมแบบประกอบแค่ขาตั้งแล้วใช้เลยก็อาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้นะคะ เพราะส่วนของเถ้าจะร่วงลงมาดังภาพด้านบนค่ะ ดังนั้นควรจะหาจานมารองเถ้าแล้วใช้กันดีกว่าค่ะ
ว่าแล้วก็ มาลองจุดไฟใช้งานกันดูเลยดีกว่าค่ะ!
จุดไม้ขีดไฟ และจ่อไฟบริเวณปลายยอดของเทียนหอม และเป่าเบา ๆให้ไฟดับค่ะ

และนี่ก็คือภาพเมื่อลองจุดไฟให้มีควันออกมาจริง ๆค่ะ
ให้วางเทียนหอมห่างจากคุณระยะหนึ่ง และเพลิดเพลินไปกับกลิ่นหอมที่ชวนภิรมย์ของมันกันเลยค่ะ
การต้อนรับแขกที่จะมาเยี่ยมที่บ้านด้วยการจุดเทียนหอมรอไว้ก่อนนั้น ก็เป็นหนึ่งในประเพณีการต้อนรับแขกของญี่ปุ่นนะคะ
กลิ่นของควันนั้นแรงกว่าที่เราคิดค่ะ แต่ภายในนั้นคุณก็จะสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมที่ทำให้จิตใจสงบได้ปนอยู่ค่ะ
บรรยากาศภายในห้องนั้นให้ความรู้สึกถึงความเป็นญี่ปุ่น เสมือนกับว่ากำลังอยู่ภายในวัดของญี่ปุ่นเลยล่ะค่ะ
เพียงแค่คุณมองทิศทางการเคลื่อนที่ของควันก็ทำให้จิตใจของคุณสงบลง และรู้สึกเหมือนกับว่าเวลาค่อย ๆผ่านไปอย่างช้าด้วยค่ะ
โดยเราได้ลองจุดเทียนหอมก่อนนอนดู ก็พบว่านอกจากจะหลับสบายขึ้นแล้ว ยังทำให้ตื่นมาพบกับกลิ่นหอมที่ยังคงเหลืออยู่ด้วยค่ะ

กลิ่นของพลัมสีขาว

ต่อไปเราก็จะมาแนะนำรุ่นกลิ่นพลัมสีขาวกันนะคะ

พลัมสีขาวนั้นเป็นดอกไม้แห่งฤดูหนาวค่ะ(พบมากสุดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์)
โดยกลิ่นก็เป็นกลิ่นของดอกพลัมสีขาวตามชื่อเลยค่ะ
ก่อนอื่น เราได้ลองดมกลิ่นของตัวเทียนหอมก่อนจุดดูก็พบว่า รุ่นนี้เมื่อเทียบกับอีก 2 รุ่นที่เรานำเสนอในวันนี้แล้ว รุ่นนี้จะมีกลิ่นที่เบาที่สุดค่ะ โดยเป็นกลิ่นที่รู้สึกสดชื่นมากค่ะ

เมื่อลองจุดไฟดูก็พบว่ากลิ่นมีความแรงพอ ๆกับอีก 2 รุ่นที่เหลือค่ะ โดยนอกจากกลิ่นที่สดชื่นแล้วยังมีกลิ่นหวาน ๆมาปนด้วยนะคะ
ซึ่งในบรรดา 3 รุ่นที่เรานำเสนอในครั้งนี้นั้น เราชอบรุ่นนี้ที่สุดเป็นการส่วนตัวค่ะ
เมื่อดมแล้วทำให้จิตใจสงบขึ้นค่ะ

กลิ่นดอกหลงต่าน

สุดท้ายแล้ว เรามาดูกลิ่นดอกหลงต่านกันค่ะ

กลิ่นดอกหลงต่าน 540 เยน(รวมภาษี)
กลิ่นดอกหลงต่านนั้นเป็นดอกที่พบได้ในแถบฮอนชูลงไปถึงคิวชูค่ะ โดยจะบานในช่วงฤดูใบไม้ร่วงค่ะ
จะมีดอกสีน้ำเงินค่ะ
เราได้ลองจุดไฟเทียนหอมรุ่นนี้ดูนะคะ

กลิ่นของดอกหลงต่านนั้นเมื่อสูดดมเข้าไปก็จะให้ความรู้สึกที่สดชื่นค่ะ
ซึ่งให้สัมผัสที่รู้สึกได้ว่าเป็นกลิ่นหอมที่มีระดับค่ะ
เป็นกลิ่นที่ทำให้จิตใจสงบค่ะ
ซึ่งเรารู้สึกว่ากลิ่นของมันก่อนที่จะเผานั้นให้กลิ่นหอมที่สดชื่นมากกว่าตอนที่เผาอีกค่ะ

และก็จบลงไปกับการแนะนำสินค้าเทียนหอมในครั้งนี้ค่ะ
โดยรุ่นเทียนหอมทั้ง 3 รุ่นที่ได้แนะนำไปในวันนี้ ใช้เวลาเพียง 10 นาทีก็กลายเป็นขี้ผงหมดแล้วค่ะ
ถึงแม้จะอยู่ได้แค่เพียงระยะเวลาสั้น ๆแต่กลิ่นหอมของมันก็สามารถปกคลุมรอบ ๆห้องของคุณได้อย่างทั่วถึงค่ะ
ระวังอย่าจุดไฟแรงจนเกินไปนะคะ ไม่เช่นนั้นกลิ่นจะออกมาแรงเกินไปค่ะ

ซึ่งนอกจากสินค้าที่ได้แนะนำไปในวันนี้แล้ว ยังมีกลิ่นหอมอีกหลากหลายกลิ่นให้คุณได้มาเลือกที่ญี่ปุ่นค่ะ
โดยเลือกกลิ่นที่ใช่สำหรับคุณ และซื้อไปประดับห้องให้หอมกันนะคะ♪

เขียนโดย yui

You may have missed